ครูคิดว่า ทุก ๆ ท่านตอนเป็นเด็ก จะได้ฉายา ๆ นี้ "หนูน้อยจำไม" แต่อาจถูกเรียกใน หลาย ๆ version
อาจเป็น หนูน้อย"ทำไม" เพราะถามอยู่นั่นละ ถามทุกสิ่งที่เห็น
อะไร ทำไม ถาม ๆ ๆ ๆ ๆ
เป็นธรรมชาติของเด็ก จะ "ชอบถาม"
(เป็นกลไกทางธรรมชาติเพื่อการเรียนรู้ ตามคุณสมบัติของมนุษย์ที่มีเนื้อสัตว์)
ถามจนผู้ใหญ่เวียนหัว คุณย่า คุณยาย ยอมแพ้ อธิบายไม่ได้
เชิญชวนท่านมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์วัยเด็ก เท่าที่จำความได้ว่า
สมัยเป็น หนูน้อยจำไม (เจ้าหนู "ทำไม" หนูน้อย "ทำไม" ทำไม ๆ ๆๆ อะไร อยู่นั่นละ มาโน้นแล้วเจ้า "ทำไม" หนีดีกว่า)
ว่า
เคยถามคำถามอะไรที่สร้างความปวดศีรษะ ให้ผู้ใหญ่ บ้าง
ท่านที่ยังจำได้ หรือจะกลับไปถามคุณแม่ให้ช่วยนึก ก็เขียน ment เล่าสู่กันฟังครับ
ใช่ครับ จำได้ว่าเคยถามเเม่ว่า
ตอบลบลูก: เเม่ครับ พ่ออยู่ไหน
เเม่: พ่อไปทำงานนะลูก
ลูก:ที่ไหน
เเม่:ที่ทำงาน
ลูก:เเล้วพ่อไปทำไม
เเม่:ก็ไปทำงานไง
ลูก:เเล้วทำไมๆ
เเม่: --
เเม่ไม่ตอบอะไร คงปวดหัวครับ ^^
ถามทุกวันด้วยละซิ
ลบตอนเด็กหนูมักจะถามคุณแม่ว่า แม่ขาอันนู้นใช้ยังไง อันนี้ใช้ยังไง อันนู้นเป็นยังไง อันนี้เป็นยังไง ซึ่งเป็นคำถามเดิมซ้ำไปซ้ำมา แล้วคำถามที่หนูถามมักจะเป็นคำถามที่ไร้สาระมาก บางครั้งอาจจะทำให้คุณแม่อาจจะปวดหนูบ้าง เพราะความที่อยากรู้อยากเห็นของหนูค่ะ
ตอบลบมีตัวอย่างแบบโดน ๆ มาแลกเปลี่ยนไหมละ
ลบเมื่อก่อนหนูจะมีฉายาว่า 100คำถามไม่มีตัวช่วยค่ะ5555 หนูชอบถามไปหมดซ่ะทุกอย่าง
ตอบลบอย่างเช่นตอนที่หนูไปเที่ยวทะเลก็จะถามว่า ทำไมน้ำละเลถึงเค็ม? แม่รู้ได้ไง? แม่เคยกินมั้ย? แล้วทำไมมันต้องเค็ม? ฯลฯ
ไม่ว่าหนูจะไปเที่ยวกับญาติพี่น้องคนไหนหนูก็จะถามทุกคำถาม จนญาติพี่น้องชอบบ่นว่าไปถามคนอื่นเถอะ หรือไม่ก็ ตอบว่าไม่รู้สิแทนจนหนูงงไปเลยค่ะ
100 คำถาม ชื่อนี้คงได้มาแบบไม่ธรรมดา
ลบใช่ น้ำทะเลเค็ม คำถามยอด ฮิต
แม่รู้ได้ไง อันนี้ก็บ่อยเลย
สำหรับดิฉันคงจำไม่ได้เพาะนานเกินไป ขออนุยาดเปลียนเรื่องเร่าลูกของดิฉันแทนได้ไม้ค่ะ
ตอบลบโดยดิฉันเป็นแม่ และตอบคำถามลูกๆ
ตอนนี้เป็นช่วงที่ลุกคนที่ 3 ของดิฉันกำลังอยู่ในช่อง เจ้าหนุ๋ จำไมพอดีค่ะ
ทุกวันเขาก็จะถามคำถามเดิมๆค่ะว่า Where is daddy? Where is Cookie? Where is Bank? Where is swimming pool? Where is Mr Nit(her nursery teacher)? พ่ออยู่ไหน พี่ คุ๊กกี้อยู่ไหน พี่ แบ๋ง อยู่ไหน ที่จริงแล้ว พ่อและพี่ๆก็นั่งข้าง เขาจะถามหลายๆรอบเพื่อจำไว้ค่ะ เมื่อดิฉันถามเขากลับเขาก็จะตอบเหมือนที่ดิฉันตอบเขาไปคะ่ เป็นขบวนการเรียนรู้ของเขาค่ะ
ช่อง คือ ช่วง
ลบอ่านแล้วก็ขำ (ตลก) ในความเดียงสาของเด็ก คงเป็นกันทุกประเทศละ ดูแลเขาให้ดีที่สุดนะ
ค่ะ ขอบคุณค่ะอาจรย์
ลบขอแช่รเรื่องลูกคนที่ 2 ค่ะ คนนี้ถามเรื่องยากสำหรับดิฉันมาก เช่น ทำไมลมถึงพัดมา ทำไมมีดวงตาวันตอนกลางวัน ทำไมมีเดือนตอนกลางคืน ทำไมดวงเดือนถึงวิ่งตามเขาไปทุกที ทำไมใบไม้ถึงตีง ทำไมฝนตก แล้วสายรุงนี้มาจากไหน เราจับสายรุงได้ไม เราเยียบเมฆได้ไม เรากินเมฆได้ไม ถ้าเราจับเมฆได้จะรู้สึกอย่างไร เราสามารถวิ่งในผีวนํ้าได้ไม อีกมากมาย ทำไม ทำไม ดิฉันตอบไม่ค่อยได้เลียบอกว่าเดียวเรามาถามคุณพ่อ ถ้าคุณพ่อตอบไม่ได้เราก็ถามลุง Google กัน
สำหรับดิฉัน ในตอนเด็กๆ ดิฉันเคยถามแม่ว่า
ตอบลบฉัน : แม่แต่งงานเมื่อไร
แม่ : แต่งตอนหนูไม่มีหนูไงลูก (ตอบแบบยิ้มๆ)
ฉัน : แล้วงานแต่งมีคนเยอะไหม
แม่ : ไม่รู้
ฉัน : อ้าว!แม่ ทำไมอ่ะ ตกลงแม่มาแต่งงานกับพ่อป่ะ
แม่ : แต่งสิ
ฉัน : ทำไมไม่บอกอ่าาา
แม่ : ไม่รู้...ไม่บอก
ฉันถามเรื่องนี้ทีไรแม่ไม่เคยบอกสักที สงสัยแม่คงเขินค่ะ (หนูถามเรื่องนี้บ่อยมาก)
คุณแม่บอกว่าตอนเด็กๆหนูชอบถามว่า ทำไมหนูต้องอาบน้ำ เพราะตอนเด็กๆหนูไม่ชอบอาบน้ำค่ะ แล้วชอบถามว่า อันนู้น อันนี้ไว้ทำอะไร ทำไมต้องทำ ทำเพื่ออะไร จนคุณแม่ปวดหัว แล้วเดินหนี ไม่ตอบคำถามอะไรเลย
ตอบลบตอนเด็กเด็กเวลาอยู่ในรถจะชอบถามคำถามอยู่คำถามเดียว
ตอบลบเพราะเห็นว่าพ่อกับแม่ไม่ค่อยคุยกัน
บทสนทนาระหว่างที่อยู่ในรถก็จะเป็นดังนี้
ฉัน : พ่อรักแม่ไหม ?
พ่อ : รักสิ (ยิ้มเขินเขิน)
ฉัน : แม่รักพ่อไหม ?
แม่ : รักสิ (ยิ้มยิ้ม)
ฉัน : รักกันทำไมไม่คุยกันล่ะ เงียบจัง
พ่อแม่ : (หัวเราะ)
แล้วทั้งสองคนก็จะคุยกัน ยิ้มให้กันไม่ทำหน้าตึงเครียดใส่กัน
ผมถามแม่ว่า ทำไมพริกถึงเผ็ด
ตอบลบแม่ผมก็จะตอบว่า พริกก็เผ็ดเป็นธรรมดา
ผมก็เลยถามว่า ทำไมพริกหวานถึงไม่เผ็ด
แม่ผมก็ตอบว่า ลิ้นใครลิ้นมัน ชอบก็กิน ไม่ชอบก็ไม่ต้องกิน
แล้วแม่ก็พูดลงท้าย(กวน ๆ)
ตรวจของ เปมิกา จินตนา ชลวรรณ และ พีรธัช แล้วครับ สร้างรอยยิ้มได้ดีทีเดียว
ตอบลบตอนหนูเป็นเด็ก หนูเคยถามแม่ว่า
ตอบลบทำไมหนูต้องชื่อ ชฎาธร
ทำไมหนูต้องเรียนหนังสือ
ทำไมต้องเรียนโรงเรียนนี้
แม่ตอบว่า แม่เลือกสิ่งที่ดีให้หนู หนูควรภูมิใจ
หนู: นั่งคิดแล้วเงียบ ทั้งๆที่อยากจะถามต่อ
ตอนนี้คงทราบคำตอบบางคำตอบแล้วละนะ
ลบตอนเป็นเด็กหนูเคยนั่งทานข้าวแล้วกระดิกขา
ตอบลบแล้วแม่บอกว่า ห้ามทำมันไม่ดี
หนู เลยถามกลับว่าทำไมถึงไม่ดี
แม่ก็บอก มันไม่ดีก็คือไม่ดีนั้นแระ
หนู ก้ถามอีกว่า เอาไม่ดีคือไม่ดี คืออะไรละ
แม่ก็บอก ก็ไม่ดีแหละ ไม่ต้องถามมาก กินๆ ข้าวไป
ตั้งแต่นั้นมา คำว่าไม่ดี หนูก็ไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร คือความหมายแบบสูงสุดอะไรแบบนี้
เอาเรื่องตั้งแต่เด็กเลยนะเรา
ลบตอนเด็กจำได้ว่า ดิฉันเคยถามพ่อแม่ว่า "ทำไมเราต้องเรียนหนังสือด้วยคะ"
ตอบลบไม่เรียนไม่ได้เหรอ
พ่อกับแม่ ดิฉันก็ตอบว่า การเรียนจะเป็นผลดี ต่อลูกในพายพากหน้า
จะทำให้ชีวิตของลูกก้าวเดินได้ ด้วยความมั้นคงมากขึ้น
รู้ว่าอะไรผิดหรือถูก ตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง
เด็กบางคำพูดอาจจะเข้าใจอยาก หรือไม่เข้าใจเลย แต่ถ่าโตแล้ว
เราก็จะรู้อะไรมากขึ้นเอง "ชีวิตคือการเรียนรู้ แลการเรียนรู้นั้นเราไม่ควรย่อท้อต่ออุปสัก แต่ให้ถือว่ามันคือบทเรียนที่จนำเอาไปปรับใช้ในอนาคต"
คำพูดทุกคำของ พ่อและแม่ดิฉันยังจำได้ดีและเข้าใจคำพูดเล่านั้นมากขึ้นทุกวัน ขอบคุณคะ
ถามเรื่องเรียนเลยเหรอ คงชอบเรียนแต่เด็ก ๆ ละซิ
ลบตอนเด็กไม่ค่อยชอบที่จะเรียนในห้องเรียนคะ แต่ชอบที่จะเรียนรู้นอกห้องมากกว่าคะ
ลบขอบคุณคะ
ในตอนเด็กนั้นเมื่อเราไม่รู้ก็ต้องถามพ่อกับแม่ แต่มาดูครอบครัวผมกัน
ตอบลบผม:แม่ทำไมมัน...(คำถาม)........
แม่:แม่ก็ไม่รู้ ลองถามพ่อซิ
ผม:พ่อทำไมมัน...(คำถาม)........
พ่อ:(ตอบออกทะเล,เล่นมุก,ตอบไปเรื่อย)
ผม:???????????????
คือแม่ของผมก็ไม่รู้ พ่อของผมท่านขี้เล่นแบบนี้แหละ ผมจึงต้องถามซ้ำอีกรอบ
บางทีถาม 3รอบคำตอบไม่เหมือนกัน แต่พ่อท่านก็ให้คำตอบได้ดีมาก
ตอนโตมานี่อะไรค้นในเน็ตได้ ผมค้นก่อนเลย ถ้าเป็นเรื่องที่พ่อรู้ยังไงก็ต้องถาม
พอพ่อยิงมุกมา ผมก็เลยตบมุกกลับ ด้วยตอนเด็กไม่เคยทำได้
EX.
ผม:พ่ออายุเท่าไหร
พ่อ:28
(เราก็เชื่อด้วยความเป็นเด็ก)
1ปีต่อมา
ผม:พ่อปีนี้อายุเท่าไหร
พ่อ:28
ผม:??????????
มารู้ทีหลังว่า 28 คืออายุที่พ่อพลาดไปแต่งงานกับแม่ (พ่อเค้าว่าเงี้ย)
แต่ผมว่าทั้ง 2คนก็รักกันมากครับ
ได้เชื่อ แจงมุข มาจากใคร คงพอเดาได้เลย
ลบในสมัยเด็กๆของผม แม้ผมจะเป็นเด็กผู้ชายแต่ผมก็เป็นเด็กที่ขี้อ้อนมาก แม่ผมเล่าว่าผมเคยถามแม่....
ตอบลบผม : นอนตักแม่เพราะตักแม่อุ่นที่สุด
แม่ : อย่าเซ้าซี้ได้มั้ยกันต์
ผม : เซ้าซี้ ??? คือไรครับแม่
แม่ : .....เซ้าซี้ ก็คือเซ้าซี้
ผม : เงียบ แล้วก็นอนตักแม่ไม่ยอมลุก 5555
แม่ก็บอกว่าเซ้าซี้ก็คืออย่างที่กันต์ทำอย่างงี้ไงลูกแม่บอกยังไม่ลุกอีก ผมก็รีบลุกทันทีแล้วทำหน้าฉงน
แล้วแม่ก็บ่นว่ารำคาญจริง เมื่อไหร่จะโตจะได้เลิกเซ้าซี้แม่สักที แล้วแม่ก็หัวเราะ
พอผมโตขึ้นมาแม่ก็ยังบ่นว่าผมเซ้าซี้อยู่อีกไม่รู้จักโตสักที ผมก็บอกแม่ว่าผมรักแม่ที่สุดผมถึงได้เซ้าซี้แม่นะครับ สุดท้ายผมก็ได้รู้ว่าคำว่าเซ้าซี้ของแม่คือ ความขี้อ้อนของผมนั่นเอง (ถึงอย่างไรทุกวันนี้ผมก็เซ้าซี้แม่อยู่ดีแต่จะเซ้าซี้แม่คนเดียวครับ)
เซ้าซี้ในวิชาครูได้นะ
ลบตอนเด็กเคยถามแม่ว่าทำไมหนูต้องชื่อเล่นว่าเค้ก?
ตอบลบแม่ก็บอกว่า ตอนเด็กพี่ชอบกินขนมเค้กพี่เลยเป็นคนตั้งชื่อให้นั่นเอง
สั้นไปหน่อยไหม
ลบทุกคนเคยเป็น หนูน้อย จำไม น่าจะตอบ ment นี้ได้กันทุก ๆ คนเลยละ
ตอบลบ