วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กฏ 11 ข้อ ที่โรงเรียนไม่ได้สอน

โลกใบนี้รู้จัก คนที่รวยที่สุดในโลกคนนี้
นอกจากในฐานะคนที่รวยที่สุดแล้ว ยังเป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของบริษัท Microsoft ด้วย
*****

*****
ต้องการเสริม ข้อใด
ไม่เห็นด้วยในข้อใด
หรือ คิดว่า ความคิดของตัวเองมีดีในข้อของตัวเอง ก็เขียนเพิ่มได้

31 ความคิดเห็น:

  1. ขอเสริมข้อ5: ไม่ผิดแต่ต้องนำไปใช้ให้ถูกที่ถูกทาง ถูกเวลา .ขอเสริมข้อ6: แต่ลูกที่ดีและประสบความสำเร็จได้ไวและได้เปียบคนอื่นคื่อต้องมีพื้นฐานที่ดีจากความคัว ได้รับการส่งเสริมจากความคัว. ขอเสริมข้อ8:ทำผิดที่โรงเรียนมีอาจารช่อยแก้ไขช่วยสอนให้ทำถูกต้องแต่ในชีวิตจริงอาดไม่เป็นอย่างนั้น

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. - งั้นครูขอ ปรับในภาษาไทย ถูกที่ ถูกทาง ถูกเวลา ก็ใช้คำสวยว่า กาละเทศ
      - ได้เปียบ เป็น ได้ เปรียบ นะ
      ส่วน ความคัว นั่น ครูไม่เข้าใจนะ
      - ทำผิดในชีวิตจริง ก็คงเป็นการลงโทษจากสังคม ตามระดับของความผิด กระมัง

      ขอบคุณมากครับ พิดสะไหม กระตือรือล้น ตั้งใจ ทำงาน เป็นความดีที่อยู่ในตัวเอง สมควรอย่างยิ่งที่ต้องรักษาไว้

      ท่านอื่น ๆ ครูขอแนะนำ เพื่อนร่วม class คือ คุณ พิดสะไหม หน่อยนึงว่า เป็นเพื่อนจาก ประเทศลาว หากท่านอาจภาษาพิมพ์ ก็น่าจะสังเกตุได้
      แต่ความผิดพลาดนั่น ไม่เป็นอุปสรรค สำหรับ พิดสะไหม
      ผิด เป็นครู ผิด เพื่อแก้เป็นถูก อยู่แล้ว เรื่องอาย ใคร ๆ ก็คง อายกันอยู่ แล้วเป็นไงนะ แค่อาย
      ครูคิดว่า เป็นโอกาส ที่ดีมาก ๆ สำหรับ นักศึกษา section นี้นะครับ เป็นโอกาสที่จะได้รู้จัก ทำความคุ้นเคย ศึกษา เพื่อนจากแดนไกล ท่านนี้

      ลบ
    2. คอบคัวค่ะอาจารย์. ขอบคุณมากๆค่ะ ดิฉันไม่เก่งคอมฯค่ะดั่งนั้นสิ่งที่อาจารย์สอนและเพื่อนตอบคำถามในห้องเรียนจิ่งเป็นสิ่งที่หน้าสนใจและเป็นความรู้ใหม่ของดิฉันค่ะ.

      ลบ
    3. ครอบครัว นะ ขอบคุณเช่นกันครับที่ใส่ใจ

      ลบ
    4. ถึงว่าทำไม คุณ พิดสะไหม พิมพ์แต่ภาษาอังกฤษ ผมแปลกใจตั้งนาน พูดถึงเรื่องภาษาผมก็ไม่ค่อยได้นะ = =
      แต่ยังไงก็ ยินดีที่รู้จักครับ คุณ พิดสะไหม

      ลบ
    5. ขอขคุณค่ะคุณวัทธิกร

      ลบ
  2. ผมคิดเล่นๆนะครับ ถ้าเกิดจะมีหลักสูตรเกี่ยวกับวิชาพื้นฐานของระดับอุดมศึกษา
    มาเป็นวิชาเลือกในระดับมัธยมปลาย มันจะช่วยให้เด็กค้นพบตัวเองได้มากขึ้นหรือป่าว แล้วอาจทำให้ไม่ต้องปรับตัวมาก เมื่อเข้ามาเรียนในระดับอุดมศึกษา
    อีกอย่างคืออยากให้ครอบครัวในไทยสอนให้เด็กหัดทำงานหาเงินเองเท่าที่ทำได้หน่ะ เรียนก็ระดับหนึ่งแต่ปฏบัติจริงมันเรียนรู้ได้รวดเร็วกว่า

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ก็เริ่มจากความคิด เล่น ๆ นี้ละ เนื้อหาใน ม.ปลายก็น่าจะเยอะอยู่นะ มีครูฝ่ายแนะแนวด้วย
      แต่ครู 1 คน กับนักเรียนร่วม 50 คน แต่ละคนก็คงเต็มไปด้วยพลัง ทำโน้น นี่ นั่น กันจนคุณครูปวดหัว และ หมดแรงไป
      ครูจึงเลือกการสอนออกแนวบังคับ แทน การสอนแบบ กระตุ้นให้ทำ
      สำหรับการทำงานหาเงินขณะเรียน ก็คงเริ่มมีเพิ่มขึ้น ๆ ครับ สภาพสังคม เศรษฐกิจปัจจุบันก็บีบรัดตัวมากขึ้นด้วย
      มีเพื่อนของเรา แต่น่าจะอยู่อีก section 1 ที่เรียนไปด้วย และ ทำงานไปด้วย ก็มีครับ
      ตอนนี้ เรามีอาชีพเป็น นักศึกษา 100 เปอร์เซนต์ ก็ทำมันให้เต็มที่แล้วกัน

      ลบ
    2. ในเมื่อครูสอนได้ออกแนวบังคับ เด็กเลยต้องขวนขวาย โดยการไปหาความรู้นอกห้องเรียนเองใช่ไหมครับ เพราะความเป็นไปได้ที่ครูจะกระตุ้นให้ทำเป็นไปได้ยาก แล้วถ้าเพิ่มบุคลากรครูแล้วสถานที่เรียน(ขยายโรงเรียน)จะเป็นไปได้ไหมหนอ

      ลบ
  3. ถือว่าเป็นกฏของความสำเร็จจริงๆ ค่ะ ชีวิตนอกรั้วการศึกษานั้น มันคืออนาคตของคุณ ถ้าคุณท้อ แล้วคุณไม่สู้ต่อ ไม่พยามยามเอามาเป็นกำลังใจ คุณก็ไม่ประสบความสำเร็จแบบในคลิปค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่มีกฏข้อใดจะเสริม หรือ จะแย้ง หน่อยเหรอ

      ลบ
  4. หนูเห็นด้วยกับกฎทุกข้อของเค้าน่ะค๊ะ แต่ข้อที่11หนูคิดว่านอกจากเราจะเป็นมิตรกับความเนิร์ดแล้ว เราก้อควรเป็นมิตรกันสิ่งรอบข้างด้วยเช่นกันค่ะ เช่นพวกทำกิจกรรมนันทนาการต่างๆ ฯลฯ หากทุกๆคนคิดและทำตามกฎทุกข้อ ก็จ่ะทำให้ประสบความสำเร็จ และมีอนาคตที่ดี แต่เราก็ต้องตั้งเป้าหมายและความสำเร็จของเราด้วยน่ะค๊ะ หนูเชื่อว่าทุกล้วนมีความฝันและถ้าเราตั้งใจจริงๆ เราก็ต้องทำตามความฝันให้ได้ค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ชอบคำที่ใช้ "เนิร์ต"
      ครูแนะนำว่า จะใช้คำอังกฤษ คำไหน พิมพ์คำนั่นเป็น อังกฤษ เลย จะยอดกว่า โดยเฉพาะการพิมพ์งานหน้าเครื่องฯ ที่เข้า net ได้ ก็หาคำสะกดใน net เลย ใช้เวลานิดเดียวก็เจอ
      ครูเชื่อว่า ยังมี กฎ ใหม่ๆ อื่น ๆ อีก ไว้รอให้ค้นพบ

      ลบ
  5. จากคลิปวีดีโอดังกล่าว แท้จริงแล้วผมเห็นด้วยกับข้อคิดดีๆจากคุณบิล เกตส์ แต่สิ่งที่ทำให้ผมเห็นด้วยเป็นกรณีพิเศษคือกฎข้อที่1 ข้อที่8 และข้อที่9 กล่าวคือตามกฎข้อที่1 นั้นผมเห็นด้วยว่าชีวิตนี้ไม่มีความยุติธรรมนักหรอกเพราะตามหน้าสื่อต่างๆ หรือในชีวิตจริงที่ผมเคยพบเห็นมาก่อน ความยุติธรรมมักจะเกิดแก่ชนชั้นสูงหรือผู้มีอำนาจเป็นส่วนใหญ่ กฎข้อที่8 ผมคิดว่าไม่มีใครเลยที่จะเกิดมาเพื่อแพ้เพียงอย่างเดียวหรือชนะเพียงอย่างเดียวเพราะในชีวิตจริงต้องมีมุมที่เราเคยแพ้หรือชนะสลับกันบ้างเพื่อทำให้เราก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง ประการสุดท้ายกฎข้อที่9 ในการค้นหาตัวตนของตนเองนั้นเราจะแบ่งเป็นระยะเวลาไม่ได้ เพราะทุกนาทีเราจะต้องค้นหาตนเองให้พบเพื่อมีจุดโฟกัสที่เราจะต้องมุ่งไปให้สำเร็จ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ณัฐศักดิ์ ลำดับความคิดได้ดีครับ อ่านเข้าใจง่าย มีการท้าวความพร้อมตัวอย่าง
      ความยุติธรรมมักเกิดกับชนชั้นสูง ตรงนี้คงคิดในกรอบแคบ ๆ ไปนิดนะครับ และคงไม่ใช่ความยุติธรรมในระดับสากล แต่คงเป็นความยุติธรรมที่ถูกเขียนขึ้นโดยกลุ่มคนที่ได้ประโยชน์ กระมัง
      เป็นคนเขียนหนังสือได้ดีจริง ๆ ขอชม

      ลบ
  6. สำหรับดิฉันก้อเห็นด้วยกับกฎทุกข้อค่ะ แต่ชอบเป็นพิเศษคือกฎข้อ 6 ค่ะ เพราะพอนึงแล้วรู้สึกดีมากๆและเป็นการเตือนเราเสมอว่าเวลาเราจะทำอารัยลงไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีทำให้เราต้องคิดถึงพ่อแม่ก่อนเสอมด้วยคำว่า "ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของคุณไม่ใช่ความผิดของพ่อแม่" และมีข้อเสริมว่า การประสบความสำเร็จบางครั้งก็ขึ้นอยุ่กับการเลี้ยงดูของพ่อแม่ และขึ้นกับตัวเราว่าจะเรียนรู้ ฝึกฝนและลงมือปฎิบัติได้ดีแค่ไหน ที่สำคัญที่สุดถ้ามีโอกาสควรรีบรับไว้และจะทำให้เกิดความสำเร็จในชีวิต

    ตอบลบ
  7. สำหรับดิฉันเห็นด้วยกับกฎทุกข้อค่ะแต่ชอบเป็นพิเศษคือกฎข้อที่ 6 ด้วยคำว่า"ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของคุณ ไม่ใช่ความผิดของพ่อแม่ เพราะนึงดูแล้วรู้สึกดีมากๆๆและทำให้เราคิดอยู่เสมอว่าเวลาทำอะไรลงไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีเราควรคิดถึงพ่อแม่ก่อนเสมอและเมื่อเราทำอะไรผิดอย่าคิดที่จะโทษพ่อแม่ และมีข้อเสริมว่าการประสบความสำเร็จบางครั้งก็ขึ้นอยุ่กับการเลี้ยงดูของพ่อแม่และขึ้นอยู่กับตัวเราด้วย ว่าเราจะรู้จักที่จะเรียนรู้ ฝึกฝนและลงมือปฎิบัติได้ดีแค่ไหน ที่สำคัญที่สุดคือโอกาสถ้าเราได้รับโอกาสที่ดีเราตวรรีบรับไว้เพื่อจะทำให้เกิดความสำเร็จในชีวิต

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอคุยใน ment นี้นะ
      สำหรับพ่อแม่แล้ว ครูว่า นฤวรรณ คือสิ่งที่วิเศษสุด สำคัญที่สุดในชีวิตท่านเลยละ
      ในฐานะที่ครูก็มีลูกสาว ก็ขอ confirm แทนได้เลย

      ลบ
  8. สำหรับดิฉันเห็นด้วยกับกฎทุกข้อค่ะแต่ชอบเป็นพิเศษคือกฎข้อที่ 6 ด้วยคำว่า"ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของคุณ ไม่ใช่ความผิดของพ่อแม่ เพราะนึงดูแล้วรู้สึกดีมากๆๆและทำให้เราคิดอยู่เสมอว่าเวลาทำอะไรลงไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีเราควรคิดถึงพ่อแม่ก่อนเสมอและเมื่อเราทำอะไรผิดอย่าคิดที่จะโทษพ่อแม่ และมีข้อเสริมว่าการประสบความสำเร็จบางครั้งก็ขึ้นอยุ่กับการเลี้ยงดูของพ่อแม่และขึ้นอยู่กับตัวเราด้วย ว่าเราจะรู้จักที่จะเรียนรู้ ฝึกฝนและลงมือปฎิบัติได้ดีแค่ไหน ที่สำคัญที่สุดคือโอกาสถ้าเราได้รับโอกาสที่ดีเราตวรรีบรับไว้เพื่อจะทำให้เกิดความสำเร็จในชีวิต

    ตอบลบ
  9. สำหรับดิฉันเห็นด้วยกับกฎทุกข้อค่ะแต่ชอบเป็นพิเศษคือกฎข้อที่ 6 ด้วยคำว่า"ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของคุณ ไม่ใช่ความผิดของพ่อแม่ เพราะนึงดูแล้วรู้สึกดีมากๆๆและทำให้เราคิดอยู่เสมอว่าเวลาทำอะไรลงไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีเราควรคิดถึงพ่อแม่ก่อนเสมอและเมื่อเราทำอะไรผิดอย่าคิดที่จะโทษพ่อแม่ และมีข้อเสริมว่าการประสบความสำเร็จบางครั้งก็ขึ้นอยุ่กับการเลี้ยงดูของพ่อแม่และขึ้นอยู่กับตัวเราด้วย ว่าเราจะรู้จักที่จะเรียนรู้ ฝึกฝนและลงมือปฎิบัติได้ดีแค่ไหน ที่สำคัญที่สุดคือโอกาสถ้าเราได้รับโอกาสที่ดีเราตวรรีบรับไว้เพื่อจะทำให้เกิดความสำเร็จในชีวิต

    ตอบลบ
  10. จากที่ดูในคลิปวีดีโอมา ในความคิดของหนู หนูคิดว่าหนูเห็นด้วยกับกฏข้อที่6 ค่ะ ที่บอกว่า ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของคุณไม่ใช่ความผิดของพ่อแม่เลิกคร่ำครวญเกี่ยวกับสิ่งที่พลาดไปแล้ว แต่จงเรียนรู้จากมัน มันตรงกะชีวิตของหนูค่ะ เพราะว่าชีวิตเราเราเป็นคนกำหนดมันมันเอง แล้วทุกอย่างที่เราทำนั้น มันก็ขึ้นอยู่กะตัวเราเอง ความผิดพลาดบางอย่างมันก็สอนให้เรามีความเข้มแข็งขึ้น มีความคิดความพร้อมที่จะทำอะไรบางอย่างให้ดีขึ้นค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ชีวิตเราเป็นคนกำหนดเอง ดีครับ ฟังดูเหมือนง่าย แต่คงทราบนะ ว่าไม่ง่ายเลยกับการกำหนด เจ้า "ชีวิต"
      เต็มที่กับชีวิตครับ

      ลบ
  11. จากคลิปวีดีโอ ดังกล่าว ขอแย้ง
    ข้อ2 : บางทีความมั่นใจไม่สามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้ คนเราต้องมีความพยายามและจุดมุ่งหมายด้วยถึงจะประสบความสำเร็จ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. พอมีคำว่า ขอแย้ง เนื้อหาก็ดูเด่นขึ้นมาเลยละ
      แล้วก็ เห็นด้วยกับข้อแย้งครับ ความมั่นใจเป็นเรื่องดี แต่ถ้ามีมากไปก็อาจประมาทได้ นะ

      ลบ
  12. จากที่ดูคลิปนี้ ผมคิดโดยรวมว่าการที่จะเปนแบบ บิลเค้ามีความมั่นใจในตัวเองสูงมากเลย แล้วเค้าก็ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ จึงทำให้เค้าได้มีเงินเปนพัน พันล้าน

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คนเขียนว่า พัน ๆ ล้าน ทำให้ครูนึกถึงตะก่อน จะมีคำพูดว่า เศรษฐีเงินล้าน แล้วต่อมาก็เกิดเป็น เศรษฐีร้อยล้าน ต่อมาก็มีแบบ เศรษฐี พันล้าน
      เอาแค่ เศรษฐี ยังมีหลายระดับของความร่ำรวย

      ลบ
  13. คลิปวีดีโอนี้เป็นคลิปวีดีโอที่ดีมากๆ ถ้าไม่ได้ดูก็ถือว่าเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากค่ะ สำหรับตัวหนูเองแล้วหนูเห็นด้วยทุกข้อค่ะ แต่ละข้อที่บิลเกตได้กล่าวมานั้น เป็นแนวทางที่ดีมากเลยก็ว่าได้ ในการนำมาปรับใช้กับตนเอง อย่างข้อที่6 ที่บอกว่า "ถ้าคุณคิดจะทำเรื่องใหญ่ๆอะไรก็ตาม ช่วยเก็บตู้เสื้อผ้ารกๆของคุณให้สะอาดซะก่อน" ซึ่งแน่นอนค่ะ ถ้าจะทำการใหญ่ก็ต้องเริ่มจากการทำอะไรที่มันเล็กๆก่อน แต่ว่าอย่าว่าแต่เก็บตู้เสื้อผ้าเลย แค่ตื่นเช้ามากินข้าวเช้าให้ได้ทุกวันก่อนด้วยค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ดีอย่างเดียว คงไม่พอ
      ต้องลงมือทำตาม

      ลบ
  14. สำหรับคลิปวีดีโอนี้ดิฉันเห็นด้วยทั้ง 11 ข้อกับที่กล่าวมา
    ถ้าเราสามารถนำทุกข้อมาปรับใช้ในชีวิตของเราได้
    นำมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
    หรือนำมาเป็นเป้าหมายในชีวิต
    มีจุดมุ่งหมายที่แนวแน่ มีความมุ่งมั่นพยายาม
    ในการจะทำสิ่งอะไรก็แล้วแต่
    มันก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จ
    ดั่งเช่น บิลเกต

    ตอบลบ
  15. สวัสดีคะ สำหรับดิฉันคิดว่ากฏทั้ง11ข้อ ทุกข้อต่างแฝงไปด้วยข้อคิดดีดี
    ให้มองโลกตามความเป็นจริง และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นอยู้เสมอ
    ขอบคุณคะ

    ตอบลบ