วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แต่งข้อสอบ บท 4 ระบบเครือข่าย

เชิญแต่งข้อสอบบท 4 ได้เลยครับ
นอกจากนี้ โปรแกรมท่องศัพท์ Excel ได้นำไปไว้ใน โปรแกรมเสริมคณะบัญชี ที่เมนู AC109 แล้ว
เมนูเดียวกับที่ท่านใช้สอบกลางภาคนั่นแหละ  จัดระเบียบชีวิตในแต่ละวันให้มีเวลาเข้ามาฝึก 2 โปรแกรมด้วยกัน นั่นก็คือ
1. ฝึกพิมพ์สัมผัสแป้นคิดเลข
2. ฝึกสอบศัพท์ Excel
กำหนด อนาคตที่แจ่มใส ให้ตัวเองซะ

20 ความคิดเห็น:

  1. 1.สายสัญญาณแบบ twisted-pair cable ถูกพัฒนามาจากสายสัญญาณในข้อใด
    ก.สายโทรทัศน์
    ข.สายโทรศัพท์
    ค.สายเส้นใยแก้วนำแสง
    ง.สายไฟฟ้า

    คำตอบ ข.

    ตอบลบ
  2. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของการสื่อสาร?
    ก.message
    ข.sender
    ค.network
    ง.media
    ตอบ ค.network

    ตอบลบ
  3. ข้อใดคือองค์ประกอบของการสื่อสารถูกต้องที่สุด
    1. Message, sender, receiver, media, protocol, noise
    2. Message, sender, receiver, media, procedure, noise
    3. Message, sender, receiver, news, protocol, noise
    4. Massage, sender, receiver, media, protocol, noise
    5. Message, sender, receiver, media, protocol, annoy
    คำตอบ 1

    วัตถุประสงค์หลักของการจัดตั้งระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ คือ
    1. Business
    2. Communication
    3. Education
    4. Transportation
    5. Science

    คำตอบ 2

    เครือข่ายคอมพิวเตอร์ จัดตั้งขึ้นเพื่อการสื่อสาร จึงมีส่วนประกอบเหมือนองค์ประกอบของการสื่อสาร โดยผู้รับและผู้ส่งจะทําโดย
    1. Computer
    2. People
    3. Radio
    4. Telephone
    5. Television

    คำตอบ 1

    อไรเป็นส่วนประหนึ่งของการสื่อสาร แม้จะเป็นองค์ประกอบที่ไม่พึงประสงค์ก็ตาม แต่ก็ต้องมี

    1. Message,
    2. Protocol,,
    3. receiver,
    4. media,
    5. noise

    คำตอบ 5

    ตอบลบ
  4. สัญญาณเป็นรูปแบบของคลื่นที่ถูกส่งออกมา เช่น การพูดเป็นการส่งคลื่นเสียงออกมา สําหรับ คอมพิวเตอร์เป็นการส่งสัญญาณอะไรออกมาเป็นคลื่นที่มีความถี่ (Frequency) ที่มีหน่วยวัดหรือรอบ เป็น hertz
    1. สัญญาณอนาลอก
    2. สัญญาณดิจิตอล
    3. สัญญาณไฟฟ้า
    4. สัญญาณดิจิตอล และ สัญญาณไฟฟ้า
    5. สัญญาณอนาลอก และ สัญญาณไฟฟ้า
    ตอบ 3

    สัญญาณที่ใช้ส่งสารนี้มีอยู่2 ชนิด ได้แก่
    1. สัญญาณดิจิตอล และ สัญญาณไฟฟ้า
    2. สัญญาณอนาลอก และ สัญญาณไฟฟ้า
    3. สัญญาณอนาลอก และ สัญญาณดิจิตอล
    4. สัญญาณความถี่ และ สัญญาณคลื่น
    5. สัญญาณเสียง และ สัญญาณแสง
    ตอบ 3

    คลื่นสัญญาณที่มีค่าเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น คลื่นเสียง สัญญาณเสียงบนสายโทรศัพท์ เป็นต้น
    1. สัญญาณอนาลอก (Analog signal)
    2. สัญญาณดิจิตอล (Digital signal)
    3. สัญญาณไฟฟ้า
    4. ข้อ 1 และ ข้อ 2 ถูก
    5. ข้อ 1 และ ข้อ 3 ถูก

    ตอบ 1

    สัญญาณไฟฟ้าที่สื่อสารกับบน main board นั้นเอง ซึงเราได้รู้จักไปในบท hardware แล้ว
    1. สัญญาณอนาลอก (Analog signal)
    2. สัญญาณดิจิตอล (Digital signal)
    3. สัญญาณไฟฟ้า
    4. ข้อ 1 และ ข้อ 2 ถูก
    5. ข้อ 1 และ ข้อ 3 ถูก

    ตอบ 2

    ตอบลบ
  5. สื่อในการสื่อสาร (transmission media) แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มได้แก่ สื่อแบบมีสายสัญญาณ และ สื่อแบบไม่มีสายสัญญาณ สือแบบมีสายสัญญาณ มีสายสัญญาณเป็นพาหะของคลื่น แบ่งเป็น
    1. twisted-pair
    2. coaxial
    3. fiber optic
    4. infrared light
    5. ข้อ 1, 2, 3 ถูก
    ตอบ 5

    สื่อในการสื่อสาร (transmission media) แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มได้แก่ สื่อแบบมีสายสัญญาณ และ สื่อแบบไม่มีสายสัญญาณ สือแบบไม่มีสายสัญญาณ ใช้อากาศเป็นพาหะ จึงเป็นพาหะที่มองไม่เห็น ได้แก่
    1. twisted-pair
    2. coaxial
    3. fiber optic
    4. infrared light
    5. ข้อ 1, 2, 3 ถูก
    ตอบ 4


    สื่อแบบไม่มีสายสัญญาณ (Wireless media) ใช้อากาศเป็นพาหะ จึงเป็นพาหะที่มองไม่เห็น ได้แก่
    1. radio wave
    2. infrared light wave
    3. microwave radio
    4. ข้อ 1, 2, 3 ถูก
    5. ข้อ 1, 3 ถูก

    ตอบ 5

    สายสัญญาณแบบ สายคู่บิดเกลียว (twisted-pair cable) หรือเรียกว่า สาย 10 base-T (บางตา ราเรียกว่า สายคู่ตีเกลียว) พัฒนามาจากสายสัญญาณอะไร
    1. โทรศัพท์
    2. ทองแดง
    3. ไฟฟ้า
    4. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
    5. คลื่นเสียง

    ตอบ 1

    ตอบลบ
  6. สายสัญญาณแบบ สายคู่บิดเกลียว (twisted-pair cable) หรือเรียกว่า สาย 10 base-T (บางตา ราเรียกว่า สายคู่ตีเกลียว) สายสัญญาณเป็นสายอะไร
    1. โทรศัพท์
    2. ทองแดง
    3. ไฟฟ้า
    4. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
    5. คลื่นเสียง
    ตอบ 2

    อะไรเป็นพาหะให้ไฟฟ้าไหลผ่าน สายสัญญาณแบบ สายคู่บิดเกลียว (twisted-pair cable) หรือเรียกว่า สาย 10 base-T (บางตํา ราเรียกว่า สายคู่ตีเกลียว)
    1. โทรศัพท์
    2. ทองแดง
    3. ไฟฟ้า
    4. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
    5. คลื่นเสียง
    ตอบ 2

    มีพลาสติกหุ้มเป็นฉนวน มีจํา นวนสายเป็นคู่ เช่น 4 คู่ เมื่อจับคู่สายตามสี ที่กำ หนดแล้วบิดสายพันไปมาให้เป็นเกลียวเพื่อลดการรบกวนจากสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเส้นข้างเคียง (ภาพที่ 2) สายที่นิยมใช้มีสองแบบได้แก่
    1. สาย UTP
    2. สาย STP
    3. สาย SHP
    4. ข้อ 1 และ 2 ถูก
    5. ข้อ 3 และ 2 ถูก

    ตอบ 4
    หัวเสียบ ที่นำ มาเสียบ โดยมีคีมเข้าหัว เป็นอุปกรณ์เข้าหัว ดั่งก่าว กับสาย UTP เรียกว่าหัวเสียบอะไร
    1. RJ
    2. NIC
    3. BNC
    4. T-connector
    5. Terminator
    ตอบ 1

    ตอบลบ
  7. ข้อใดกล่าวถูกต้อง เกี่ยวกับ เส้นใยแก้วนำแสง
    ก.มีระยะสัญญา 2 กม.
    ข.ใช้ทองแดงเป็นพาหะนำไฟฟ้า
    ค.มีหัวเสียบแบบ RJ
    ง.เรียกอีกชื่อ หนึ่งว่า สายดำ

    คำตอบ ก.

    ตอบลบ
  8. สายสัญญาณแบบ twisted-pair นํา ไปเสียบยังอะไร ที่มีรูเสียบหัวเสียบ ได้
    1. RJ
    2. NIC
    3. BNC
    4. T-connector
    5. Terminator
    ตอบ 2

    สาย LAN ปัจจุบันนิยมใช้สายสัญญาณแบบนี้มากที่สุด เนื่องจากราคาไม่แพง ติดตั้งง่ายไม่ซับซ้อน ยุ่งยาก
    1. twisted-pair cable
    2. coaxial cable
    3. fiber optic cable
    4. Black cable
    5. Cable media

    ตอบ 1
    สาย UTP นี้นิยมเรียกอีกชื่อว่า สาย
    1. Ethernet
    2. Internet
    3. Extranet
    4. 10 base-T
    5. Black cable

    ตอบ 1
    ในแต่ละช่วงสายสัญญาณของ Twisted-pair ยาวได้ไม่เกิน
    1. 50 m
    2. 100 m
    3. 500 m
    4. 1000 m
    5. 2 Km
    ตอบ 2
    สาย UTP ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีชื่อเรียกติดปากว่าสาย
    1. cat 1 จะรับ/ส่งข้อมูลได้เร็ว 1 mbps สายโทรศัพท์ใช้สายแบบนี้
    2. cat 2 จะรับ/ส่งข้อมูลได้เร็ว 4 mbps (megabit per second)
    3. cat 3 รับ/ส่งข้อมูลได้เร็ว 10 mbps
    4. cat 4 รับ/ส่งข้อมูลได้เร็ว 10 mbps
    5. cat 5 รับ/ส่งข้อมูลได้เร็ว 100 – 1000 mbps
    ตอบ 5

    ตอบลบ
  9. สายสัญญาณแบบเส้นใยแก้วนำแสง (Fiber optic cable)มีข้อจำกัดที่ถูกต้องที่สุดคือ
    1.มีราคาถูก การติดตั้งทำได้ยากและมีต้นทุนการบำรุงรักษาสูง
    2.มีราคาถูก การติดตั้งทำได้ง่ายและมีต้นทุนการบำรุงรักษาต่ำ
    3.มีราคาแพง การติดตั้งทำได้ยากและมีต้นทุนการบำรุงรักษาสูง
    4.มีราคาแพง การติดตั้งทำได้ง่ายและต้นทุนการบำรุงรักษาต่ำ
    ตอบ 3.

    ตอบลบ
  10. การสื่อสารแบบ Bluetooth อยู่ที่ความถี่ เท่าไหร่ และระยะทางเท่าไหร่
    1. 3.4 GHz 100 เมตร
    2. 3.4 GHz 50 เมตร
    3. 2.4 GHz 100 เมตร
    4. 2.4 GHz 50 เมตร

    คำตอบ 3.

    ตอบลบ
  11. การแต่งข้อสอบ ถือเป็นการทบทวนเนื้อที่วิเศษสุด เพราะต้องเข้าใจจึงจะแต่งเป็นข้อสอบได้
    ท่านที่แต่งข้อสอบมา ก็ล้วนแต่ทำคะแนนป้ายในห้องได้ดีแล้ว
    ส่วนท่านที่คะแนนป้ายน้อย ก็จะยังแสวงหาอะไรเพิ่มเติม น่าหนักใจแทน

    ตอบลบ
  12. สายโคแอกเชียล (Coaxial cable ) หรือสาย 10 base 2 พัฒนามาจากสายสัญญาณโทรทัศน์ และนิยมใช้เป็นสายสัญญาณเชื่อมต่อระหว่างชุมสายโทรศัพท์หรือการส่งข้อมูลสัญญาณวีดิทัศน์ สายโคแอกเชียลจะมีฉนวนหุ้มป้ องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และสัญญาณรบกวนอื่น ๆ ความเร็วในการรับส่งสัญญาณอยู่ที่ 10 mbps ซึงเมื่อเทียบกับสาย twisted-pair แล้วเท่ากับสายแบบ
    1. cat 2 เท่านั้น
    2. cat 3 เท่านั้น
    3. cat 4 เท่านั้น
    4. cat-5 เท่านั้น
    ตอบ 3

    ตอบลบ
  13. เมื่อนํา สาย Coaxial ซึงเป็นสายสีดํา มาปลอกฉนวนพลาสติกออกด้วย มีด cutter ทั่วๆ ไป ก็จะพบ
    1. สายโลหะถักหุ้มสายทั้งสายไว้
    2. พลาสติกสีขาวหนาเป็นฉนวนหุ้ม
    3. แกนโลหะ
    4. สายทองแดง
    ตอบ 1
    สายสัญญาณ coaxial 1 เส้น เมื่อนําไปใช้งานต้องเสียบกับหัวเสียบของ NIC แบบหัว BNC ด้วย ระยะความยาวของสายต่อ 1 เส้นการเชื่อมต่อคือ 500 เมตรซึงยาวกว่า twisted pair แต่ยังมีปัญหา noise จากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเช่นเดียวกับ twisted pair แต่น้อย กว่าเพราะมีฉนวนที่หนากว่า การเสียบสัญญาณจะเสียบโดยตรงเหมือน twisted pair ไม่ได้ต้องมีหัวต่อระหว่าง NIC และสาย เรียกว่า
    1. T-connector
    2. Terminator
    3. BNC – Connector
    4. BNC-Terminator
    ตอบ 1
    ต่อจากข้อข้างบนหากเครื่องนั้นเป็นเครื่องสุดท้าย ไม่มีสายต่อต่อไฟ ก็ต้องปิ ดหัวต่อ ด้วยตัวปิ ด หรือเรียกว่า
    1. T-connector
    2. Terminator
    3. BNC – Connector
    4. BNC-Terminator
    ตอบ 2
    ทำไมเส้นใยแก้วนําแสง (Fiber optic cable) จริงไม่มีข้อจำกัดเรื่อง noise เหมือน twisted-pair และ coaxial
    1. สายทองแดงเป็นตัวนำไฟฟ้า
    2. แสงไม่ได้เดินทางอยู่ตรงกลางเส้นใยแก้ว
    3. แสงเดินทางอยู่ตรงกลางเส้นใยแก้ว
    4. แสงเดินทางเป็นเส้นตรง และ สามารถเดินทางผ่านวัตถุทึบแสงได้
    ตอบ 2

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ดูเหมือนจะเป็นการอ่านทบทวนเนื้อหาจริง ๆ แล้วนำมาแต่งเป็นข้อสอบ

      ลบ
  14. เครื่อข่ายการเชื่อมต่อ Network Topology มีกี่เครือข่าย และมีอะไรบ้าง
    1. 1 เครือข่าย คือ Bus Topology
    2. 2 เครือข่าย คือ Bus Topology และ Star Topology
    3. 3 เครือข่าย คือ Bus Topology , Star Topology และ Ring Topology
    4. 4 เครือข่าย คือ Bus Topology , Star Topology , Ring Topology และ Hibrid Topology
    ตอบ 4

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เขียนแค่ว่า Network topology มีกี่แบบ อะไรบ้าง ก็น่าจะพอ

      ลบ
  15. โครงข่ายการเชื่อมต่อของระบบเครือข่าย (Network Topology) โครงข่ายการเชื่อมต่อแบบไหนที่นิยมใช้
    1. โครงข่ายแบบบัส (Bus topology)
    2. โครงข่ายแบบดาว (Star topology)
    3. โครงข่ายแบบวงแหวน (Ring topology)
    4. แบบผสม (Hybrid topology)
    ตอข 2
    อุปกรณ์ของระบบเครือข่าย (Network device) ตัวใดที่ใช้เชื่อมต่อเครือข่ายที่มีความซับซ้อน ทําหน้าที่ดูแลการสื่อสารที่ซับซ้อนในระบบเครือข่ายที่ซับซ้อน
    1. แผงวงจรดูแลระบบเครือข่าย (NIC: Network Interface Card)
    2. Hub หรือกล่องรวมสายสัญญาณ
    3. บริดจ์ (Bridge)
    4. เราเตอร์ (Router)
    ตอข 4
    อุปกรณ์ของระบบเครือข่าย (Network device) ตัวใดที่ทำการเชื่อมต่อ LAN หลาย ๆ วงที่มี topology ต่างกัน ซึงทําหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อ LAN เหล่านี้เข้าด้วยกัน
    1. แผงวงจรดูแลระบบเครือข่าย (NIC: Network Interface Card)
    2. Hub หรือกล่องรวมสายสัญญาณ
    3. บริดจ์ (Bridge)
    4. เราเตอร์ (Router)
    ตอข 3
    ประเภทของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ LAN คือ:
    1. เครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่อยู่ใกล้กันเข้าด้วยกัน
    2. เครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่อยู่ไกลกันแต่อยู่ภายในเมืองเดียวกัน
    3. เครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่อยู่ต่างเมือง ต่างจังหวัด ต่างประเทศ หรือต่างภูมิภาค
    4. สายสัญญาณพิเศษซึงอาจเป็นสายโทรศัพท์ขององค์การโทรศัพท์
    ตอข 1

    อุปกรณ์ของระบบเครือข่าย (Network device) ตัวใดที่ทำ หน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณจากคอมฯ เครื่องหนึ่งและส่งต่อไปยังคอมฯ อีกเครื่อง หนึ่ง การรับสัญญาณเราเรียกว่าการทวนสัญญาณและก่อนส่งสัญญาณไปยังคอมฯปลายทาง ทํา หน้าที่ขยายสัญญาณอีกด้วย ช่วยเพิ่มระยะรัศมีของสายสัญญาณ
    1. แผงวงจรดูแลระบบเครือข่าย (NIC: Network Interface Card)
    2. Hub หรือกล่องรวมสายสัญญาณ
    3. บริดจ์ (Bridge)
    4. เราเตอร์ (Router)
    ตอข 2
    โครงข่ายการเชื่อมต่อของระบบเครือข่าย (Network Topology) ต้องมีหัวต่อระหว่าง NIC และสาย เรียกว่า T-connector คือโครงข่ายการเชื่อมต่อของระบบเครือข่ายแบบใด
    1. โครงข่ายแบบบัส (Bus topology)
    2. โครงข่ายแบบดาว (Star topology)
    3. โครงข่ายแบบวงแหวน (Ring topology)
    4. แบบผสม (Hybrid topology)
    ตอข 1
    โครงข่ายการเชื่อมต่อของระบบเครือข่าย (Network Topology) ใช้สายดำเชื่อมต่อถูกกับข้อใด
    1. โครงข่ายแบบบัส (Bus topology)
    2. โครงข่ายแบบดาว (Star topology)
    3. โครงข่ายแบบวงแหวน (Ring topology)
    4. แบบผสม (Hybrid topology)
    ตอข 1

    โครงข่ายการเชื่อมต่อของระบบเครือข่าย (Network Topology) ตัวใด ที่ คอมพิวเตอร์ทุกตัวจะมีสายสัญญาณไปเชื่อมต่อกับ Server หรือ เชื่อมต่อกับ Hub
    1. โครงข่ายแบบบัส (Bus topology)
    2. โครงข่ายแบบดาว (Star topology)
    3. โครงข่ายแบบวงแหวน (Ring topology)
    4. แบบผสม (Hybrid topology)
    ตอข 2
    โครงข่ายการเชื่อมต่อของระบบเครือข่าย (Network Topology) ตัวใด ที่ มีสายสัญญาณหลักเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ทุกตัวเข้าเป็นรูปวงแหวน ทิศทางการสื่อสารเป็นวงกลม
    1. โครงข่ายแบบบัส (Bus topology)
    2. โครงข่ายแบบดาว (Star topology)
    3. โครงข่ายแบบวงแหวน (Ring topology)
    4. แบบผสม (Hybrid topology)
    ตอข 3
    Windows version ใดบ้างที่รองรับการทํางานแบบ peer-to-peer
    1. Windows ME, Windows XP จนถึง Windows Vista
    2. Windows 2000, Windows ME, Windows XP จนถึง Windows Vista
    3. Windows98, Windows ME, Windows XP จนถึง Windows Vista
    4. Windows95, Windows ME, Windows XP จนถึง Windows Vista
    ตอข 1

    ตอบลบ
  16. ค่ะ อาจารย์ ทวนบทเรียน และทำค่ะด้วยค่ะ

    ตอบลบ