วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ชีวิต on-line ของท่าน

เห็นชีวิต on-line ของท่านแล้ว ก็ ไม่ค่อยสบายใจ ตามประสา "คนสูงวัย" พอดีเพื่อน share กลอนนี้มา
ก็เลยนำมาฝาก




Facebook : โลกเสมือน

จากคอลัมน์บทกวี (ลูกแม่ยอง คลองแดน) หนังสือขวัญเรือนฉบับที่ 998 ปักษ์หลังมิถุนายน 2556

หลาย ๆ ท่าน ทราบหรือไม่ว่า
ตนเอง กำลัง หมกหม่น   
หลงทางอยู่ใน โลกเสมือน

โลกจริง โหดร้าย ไม่สมหวัง อยู่ข้างใน face ดีกว่า สุขกว่า

15 ความคิดเห็น:

  1. จาก คอลัมน์บทกวีมันทำให้หนูรู้ว่า เฟซบุ๊ค มันเหมือนเป็นเพื่อนชีวิตของเรา มันทำให้คนเราลืมโลกความจริง ทำให้เราไปหมกหม่นกับโลกออนไลน์ การใช้งานมันมีให้เลือกหลายอย่างหลายทาง มันอยู่ที่ตัวเราว่าจะเลือกทางไหน

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แปลว่า สุนิสา แบ่งเวลาได้นะ ไม่ต้องห่วงนะ
      เวลา on Face ก็คงมี page ดี ๆ ที่ติดตาม เป็น page ที่สนับสนุนการเรียน และทำให้คุณภาพชีวิตการเป็นนักศึกษาดีขึ้นด้วยนะ

      ลบ
  2. ผมคิดว่า facebook เป็นพื้นที่ๆแสดงความเป็นตัวตนของแต่ละคนได้มากที่สุด เช่นไม่ว่าจะหิว ร้อน เบื่อ ไม่สบายหรืออะไรต่างๆก็ตาม ก็จะถูกถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษรให้ทุกคนได้ทราบ แต่อย่างไรก็ดีผมคิดว่าไม่ควรไปยึดติดกับมันมากจนเกินไปเพราะในชีวิตจริงการพบปะ พูดคุยกันโดยซึ่งหน้า ยังเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารกันในสังคมครับ

    ตอบลบ
  3. บทมันเหมือนคล้องจองกันดีค่ะ^^ และบทสอนหรือเตือนให้เรารู้ว่าทุกวันนี้เราอยู่กับโลกออนไลน์มากเกินไป เราควรที่จะมีสติที่จะใช้มัน ไม่ลุ่มหลงอยู่กับมันจนเกินไปจนทำให้คิดว่าโลกแห่งความจริงไม่สดใส ไม่น่าอยู่ ไม่มีใครสนใจมันก็ไม่ใช่ เพราะโลกออนไลน์ทำให้มีความสุขแค่ช่วงๆหนึ่งอาจจะทำให้วันหนึ่งเกิดไม่มีโลกออนไลน์ขึ้นมา อาจจะทำให้ไม่มีความสุข เหงากับโลกแห่งความเป็นจริง เราต้องรู้จักเผชิญหน้ากับชีวิตจริงให้มากๆแล้วจะทำให้รู้ว่าโลกแห่งความเป็นจริงมีความสุขมากแค่ไหน(:

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แม้จะเป็นความสุขชั่วขณะ แต่ก็เป็นความสุข ใช่ไหมละ ก็อยู่ใน face book นาน ๆ ก็ได้ความสุขนาน ๆ
      ใน facebook หน้าตาเราก็สวย ทานอาหารก็ดี ถ่ายรูปอะไรลงไปคนก็เข้ามาชม
      ในโลก"จริง" เรียนก็ไม่สนุก แม่ก็ขี้บ่น พ่อก็ด่า ๆ ๆ


      กัญญามาศ มีงาน blog ต้องแก้ไข 1 งานนะ
      แล้วก็ยังไม่ได้ปรับขนาด และ แสดงเป็น 1 คอลัมน์

      ลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ4 กรกฎาคม 2556 เวลา 14:36

    หนูคิดว่า FaceBook อาจเป็นแรงขับให้มีการพบปะทางสังคมในโลกแห่งความเป็นจริงที่น้อยลงได้ เนื่องจากทราบความเคลื่อนไหวของผู้ที่อยู่ในเครือข่ายอย่างตลอดเวลา ดังนั้นผู้อยู่ในโลกของไซเบอร์มากเกินไปอาจทำให้มีปัญหาทางจิต หรือขาดการปรับตัวทางสังคมที่ดี โดยเฉพาะผู้ที่ชอบเล่น FaceBook ตั้งแต่ยังเด็กคะ

    ตอบลบ
  5. Facebook ก็มีประโยชหลายอย่่าง ช่วยให้ครอบครัวยาดพี่น้อง และเพื่อนที่อยู่ไกลกัน ได้เห็นความเป็นอยู่ของเรา ว่าสบายดีมีสุขไหม ผ่านรูปและวิดีโอ Clip .ให้หายคิดถึงกัน Facebook สามารถ upload รูป และ วิดิโอ ได้ดีกว่า ส่งด้วย e-mail ง่ายต่อการรับและการส่ง

    แต่ผลเสียก็มี ขึ้นกับผู้ใช้ ว่าจะใช้อย่างไร..

    ไม่ว่า Facebook หรือ สิ่งใดก็ตามถ้าหมกมุนเกินไปก็ไม่ดี เดินทางสายกลางตามคำสอนของพระพุดทเจ้า ตัวอย่าง บางคนไม่กินนํ้าตาลเลย นั้นก็ไม่ดี บางคนก็กินมากเกินไป นั้นก็ไม่ดี ควรกินพอดีไม่มากและไม่น้อยจนเกินควร

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เป็นความคิดเห็นของคนไกลบ้านครับ
      แล้วยังประยุกต์ความคิดกับสิ่งต่าง ๆ ที่เรา "หมกมุ่น" ได้ ยอดครับ

      ลบ
  6. Facebook มีทั้งคุณและโทษแบบที่บทความบอกจริงๆค่ะ เห็นด้วยนะค่ะ
    เดียวนี้มีการพัฒนาของเทคโนโลยีเยอะมาก จากที่ติด hi5กัน ปัจจุบันก็เปลี่ยนเป็น Facebook กัน
    แต่ Facebook ก็สามารถช่วยเราได้หลายอย่าง ให้เราได้รับรู้ข่าวสาร และพูดคุยกับเพื่อนๆได้หลายๆช่องทาง
    แต่มันก็เป็นโทษได้เหมือนกันถ้าเราไม่รู้จักใช้มันไปในทางที่ถูก เพราะเดียวนี้มี อาชญากร ใช้Facebookที่เราติดๆกันอยู่
    เป็นแหล่งหาเงินที่ผิดๆและก่อการร้ายได้ค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ดีครับ ท้าวความกลับไปหา hi5 ด้วย

      ลบ
  7. จากที่อาจารย์ได้นำบทความมาให้อ่าน ดิฉันคิดว่า การที่เล่นเฟซบุ๊คทำให้มีทั้งดีและมีทั้งโทษ ฉะนั้นเราควรเลือกในทางด้านที่ดีของมัน ด้านไหนไม่ดีก็ไม่ควรนำมาใช่ในชีวิตของเราค่ะ

    ตอบลบ
  8. จากบทความขั้นต้นทำให้ดิฉันรู้ว่าเฟซบุ๊คนั้นมีทั้งดีและไม่ดี ถ้าเรารู้จักใช้มันในทางที่ถูกเราก็จะได้ผลประโยชน์จากมัน และต้องรู้จักเล่นรู้จักวางไม่ควรยุ่งกับมันนานเกินไปจนลืมหน้าที่ว่าเรากำลังทำไรอยู่

    ตอบลบ